วันจันทร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555

รายชื่อผู้จบการศึกษา มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต MBA,MPA จ.นครปฐม



    การศึกษาที่ ใส่ใจใส่ความรู้สึกใส่สามัญสำนึก จนเกิดนวัตกรรม การเรียนรู้เกิดองค์ความรู้ใหม่ เสริมสร้างองค์กรให้เข็มแข็งให้ธุรกิจยั่งยื่นอยู่รอดในวงธุรกิจ
       
        คณะมหาบัญฑิต มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่  จังหวัดนครปฐมขอขอบคุณครูทุกท่านที่สร้างเสริมประสบการณ์ที่ดีตลอดมา></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></>

© 2011 office of the National Research Council of Thailand. All rights reserved.





  1. หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่

    คาดหวังที่จะเติมเต็ม
     ในสังคมที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารจะต้องมีศักยภาพที่จะรังสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และพึ่งตนเองได้ ศักยภาพหนึ่งที่ผู้บริหารการศึกษาพึงมีคือต้องเป็นผู้แสวงหาความรู้ รู้จักคัดกรองข้อมูลข่าวสาร รู้จักการนำทฤษฎีที่เหมาะสมเพื่อสังเคราะห์และ บูรณาการ กับองค์ประกอบหลักอื่นๆของสังคมเช่นความเชื่อในเรื่องประชาธิปไตย ความเสมอภาคและ
    วัฒนธรรมฯลฯ จนได้แนวทางสู่การปฏิบัติที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมสำหรับสังคมไทย การเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาไทยเป็นเรื่องที่ท้าทายผู้บริหารการศึกษา การเรียนรู้การค้นคว้าและวิจัยรวมทั้งกระบวนการนำผลการวิจัยไปสู่วิธีปฏิบัติเป็นหน้าที่หลักที่นักการศึกษาต้องกล้าทำและดำเนินการให้ทันเวลาเพื่ออนาคตประเทศชาติ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิตของมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ คาดหวังที่จะเติมเต็มศักยภาพให้แก่ผู้บริหารการศึกษาทั้งหลายของไทย
  2. การศึกษาที่สร้างนวัตกรรมชีวิต





ประวัติ

มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่

      ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2542 ด้วยแรงบันดาลใจของอาจารย์ ณรงค์ ชวสินธุ์ เพื่อที่จะทดแทนแผ่นดินเกิดด้วยการก่อตั้งสถานศึกษา โดยตั้งใจให้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดหลักสูตร สาขาการจัดการการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Management) ระดับปริญญาตรีในคณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกสู่สังคม ทั้งยังให้ความสำคัญต่อการปพื้นฐานและสร้างสำนึกให้บัณฑิตมีความพร้อมและใฝ่ใจในการริเริ่มตลอดเป็นเจ้าของกิจการของตนเอง เพื่อพัฒนาท้องถิ่น สังคมและประเทศชาติ ซึ่งบัณฑิตจะต้องเป็นผู้รู้จริง ทำจริง เก่งในด้านเทคโนโลยี ภาษาดี มีมนุษยสัมพันธ์ ร่วมงานกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีภาวะผู้นำและศีลธรรมจรรยา


           ท่านมหาบัณฑิตที่ไม่มีรายชื่อให้ตรวจสอบกับ การลงทะเบียนบัณฑิตวิทยาลัย ในเวบของมหาวิทยาลัยฯ





















" นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ " หรือจังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีเรื่องราวความเป็นมาในอดีตมากมาย ดังในหลักฐานจารึก ปรากฎหลักฐานเริ่มขึ้นในสมัย พญามังรายกษัตริย์องค์ที่ 25 แห่งราชวงศ์ลาว เชื้อสายปู่เจ้า ลาวจก ได้ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์
์ที่เมืองเงินยางเชียงแสนพระองค์ทรงรวบรวมหัวเมืองต่างๆ และได้ทรง
อนุสาวรีย์ สามกษัตริย์

ขยายอำนาจลงไปทางใต้ โดยได้สร้างเมืองเชียงรายขึ้นเป็นศูนย์กลางของการ
รวบรวมเมืองเล็กๆในแถบลุ่มน้ำกก และตั้งแคว้นขึ้น ชื่อว่า แคว้นโยน หรือโยนก จากนั้น
พระองค์ทรงขยายอำนาจเข้าสู่ลุ่มน้ำปิง
เพื่อยึดครองแคว้น หริภูญไชย พระองค์ทรงใช้เวลานานถึง 8 ปี
จึงสามารถตี แคว้นหริภุญไชยได้ต่อมาพระองค์ทรงผนวก
หริภูญไชยเข้าเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นโยนก กลายมาเป็น อาณาจักรล้านนา ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน

ผังเมืองเชียงใหม่ ใน อดีต
ต่อมาในปีพุทธศักราช 1837 พญามังรายได้สร้างเมืองใหม่ขึ้นทางเหนือ ของแคว้นหริภุญไชย แต่บริเวณดังกล่าวเกิด น้ำท่วมบ่อยครั้ง (เวียงกุมกามในปัจจุบัน)
พระองค์จึงตั้งเมืองแห่งใหม่ และที่เหมาะสมบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำปิงเชิงดอยสุเทพ ซึ่งเป็นบริเวณที่สะดวกในการทำการค้าขาย
ทั้งทางบกและทางน้ำ และยังง่ายต่อการควบคุมหัวเมืองต่างๆ  

ในปี พ.ศ. 1839 พญามังรายได้เชิญพระสหาย คือ พญางำเมือง และ พญาร่วง
( พ่อขุนรามคำแหง)มาหารือเรื่องการวางผังสร้างเมืองและทั้งสามพระองค์
ก็ได้ร่วมสถาปนาเมืองแห่งนี้ว่า
"นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่"


พญามังรายได้พัฒนาทั้งการก่อสร้างวัดวาอาราม มีการตรากฎหมายที่เรียกว่า "มังรายศาสตร์"
รวมถึงรับเอาพุทธศาสนานิกายลังกาวงศ์เข้ามาเผยแพร่ในอาณาจักร
ซึ่งทำให้พระภิกษุในล้านนาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก สมัยพระเจ้าติโลกราช
กษัตริย์องค์ที่9อาณาจักรของล้านนาได้ขยายออกไปอีกอย่างกว้างขวาง
พร้อมกับได้ผูกสัมพันธไมตรีกับสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา
ซึ่งในสมัยพระเจ้าติโลกราชนี้เอง
ที่ได้มีการสังคายนาพระไตรปิฏกขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย


อาณาจักรลานนาเริ่มเสื่อมลงในปลายสมัยพญาเมืองแก้ว
เนื่องจากทำสงครามกับเชียงตุงพ่ายแพ้และเสียชีวิตไพร่พล
เป็นอันมาก ประกอบกับอุทกภัย กระทบถึงความมั่นคงของ
อาณาจักรเมืองในการปกครองเริ่มตีตัวออกห่าง ในปี พ.ศ.2101 ในสมัยพระมหาเทวีจิรประภา กษัตริย์องค์ที่ 15
พม่าได้ยกกองทัพมาตีเชียงใหม่ เพียงสามวันก็เสียเมือง
และกลายเป็นเมืองขึ้นของพม่ายาวนานถึง 216 ปี
ชาว ลานนา

ต่อมาในปี พ.ศ.2317 พญาจ่าบ้านและพระเจ้ากาวิละ ได้ร่วมกันต่อต้านพม่า และอัญเชิญสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี ยกทัพขับไล่พม่าพ่ายแพ้ไป ต่อมาสมัยสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ทรงแต่งตั้ง
พระเจ้ากาวิละขึ้นครองเมืองในฐานะเมืองประเทศราช พระเจ้ากาวิละได้ทรงพื้นฟูเมืองเชียงใหม่ จนมีอาณาเขต
กว้างขวาง การค้าขายรุ่งเรือง ขณะเดียวกันก็จัดส่งบรรณาการ ส่วยสิ่งของและอื่นๆ ให้แก่กรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งยังมีอำนาจในการแต่งตั้งตำแหน่งเจ้าเมืองและขุนนางระดับ

เชียงใหม่ ปัจจุบัน
ล่วงมาถึงสมัยราชการที่5 เมื่ออิทธิพลตะวันตกแผ่เข้ามาในเมืองไทย
มีการปฏิรูปการปกครอง โดยผนวกดินแดนล้านนาเข้ากับมณฑลพายัพ แต่ก็ยังเป็นเมืองประเทศราชในอาณัติราชอาณาจักรสยาม ตรงกับสมัยของ
เจ้าอินทวิชยานนท์ และราชการที่5ได้ทรงขอเจ้าดารารัศมี ธิดาของเจ้าอินทวิชยานนท์ไปเป็นชายา เจ้าดารารัศมีเป็น
ผู้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองอาณาจักรใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น

เมื่อมีการสร้างทางรถไฟขึ้นในเวลาต่อมา ส่งผลให้ตัวเมืองเชียงใหม่
ขยายตัวยิ่งขึ้นและใกล้ชิดกรุงเทพฯ มากขึ้น ในปี พ.ศ.2475
เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มณฑลเทศภิบาลถูกยกเลิก
เชียงใหม่มีฐานะเป็นจังหวัดหนึ่ง ของประเทศไทย หลังจากนั้น
เชียงใหม่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นจังหวัดใหญ่ที่สำคัญ
รองลงมาจากกรุงเทพฯเท่านั้น






รายชื่อนักศึกษา MPA -NORTH CHIANG MAI
ศูนย์วิทยาคารนครปฐม
รหัสนักศึกษาชื่อ - สกุล
527830001นางจงดี  ปิ่นพงศ์พันธ์
527830002นายเปรมสันต์บริบูรณ์
527830003น.ส.พรรณทิพย์เชื้อทองคำงาม
527830004น.ส.พัชณีรัตนบุรี
527830005น.ส.ทัศน์วรรณแม้นมาลัย
527830007นายพิทักษ์พลตันกิตติวัฒน์
527830008นายจตุภูมินีละศรี
527830011พ.ต.ท.สานิตชินจอหอ
527830012นายชัยวัฒน์ยี่วารี
527830013นายสุธีศรขจรจิตร
527830014ด.ต.หญิง พานิชอินทรกุล
527830015ร.ต.ท.หญิง ญาดาทองมี
527830016น.ส.ผ่องพรรณสกุลวนาการ
527830017นางนราวดีหนูนวล
527830018นายปิยวัฒน์ชัดเจนกิจ
527830019น.ส.อาภาภรณ์เผ่าหัวสระ







คำขวัญ :

" ส้มโอหวาน  ข้าวสารขาว
ลูกสาวงาม
ข้าวหลามหวานมัน
สนามจันทร์งามล้น
พุทธมณฑลคู่ธานี  พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า"

ประวัติ :
นครปฐม เป็นเมืองเก่าแก่ มีความเจริญ มาแต่เมื่อครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช แห่งอินเดีย ทรงส่งสมณทูต เดินทางมาเผยแพร่พระพุทธศาสนา ยังดินแดนสุวรรณภูมิ และเมื่อประมาณ พ.ศ. ๓๐๐ ก็ได้มีการสร้าง พระปฐมเจดีย์ ขึ้นเป็นครั้งแรก นครปฐม ผ่านความเจริญเรื่อยมาหลายยุคหลายสมัย จนกลายเป็นเมืองร้างในที่สุด เมื่อราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗
จนมาถึงในสมัยรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดฯ ให้บูรณะพระปฐมเจดีย์ ซึ่งอยู่รกร้างกลางป่า ซึ่งใช้เวลาถึง ๑๗ ปี มาเสร็จในรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.๒๔๑๓ ต่อมา ทำให้เกิดชุมชนใหญ่ รอบองค์พระปฐมเจดีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงโปรดฯ ให้ย้ายเมืองนครชัยศรี ซึ่งเป็นชุมชนเดิม ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำนครชัยศรี ไปที่พระปฐมเจดีย์ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๗ เป็นเมืองนครปฐม และลดฐานะ เมืองนครชัยศรี เป็นอำเภอ ขึ้นกับเมืองนครปฐม

อาณาเขต :

นครปฐม อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง ๕๘ กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข ๔ ถนนเพชรเกษม มีพื้นที่ ๒,๑๖๘.๓ ตารางกิโลเมตร
แบ่งเขตการปกครอง ออกเป็น ๖ อำเภอกับ ๑ กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน อำเภอบางเลน อำเภอกำแพงแสน อำเภอดอนตูม และกิ่งอำเภอพุทธมณฑล
การคมนาคมสะดวกสบายทั้งทางรถยนต์และรถไฟ







 พระราชวังสนามจันทร์มีประวัติเก่าแก่มาแต่โบราณกาล
     เพราะสถานที่ที่สร้างพระราชวังสนามจันทร์นี้คือ สถานที่ที่สมัยโบราณเรียกว่า " เนินปราสาท" เคยเป็นที่ตั้งของ วังโบราณ และยังมีสระน้ำที่อยู่ด้านหน้าและปัจจุบันก็ยังอยู่คือ " สระน้ำจันทร์" ซึ่งเป็นที่มาของชื่อพระราชวังสนามจันทร์
           พระราชวังสนามจันทร์  เป็นพระราชวังที่สร้างขึ้นโดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกางที่ ๖ อยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ ๑ กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด ๘๘๘ ไร่ ๓ งาน ๔ ตารางวา
           ประวัติ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงดำรงพระอิสริยศเป็นสยามมกุฎราชกุมาร และพระองค์ได้ไปศึกษามาจากต่างประเทศ จึงได้ทรงรับรู้เหตุการณ์ที่ชาติตะวันตกขยายอำนาจเข้ามาในประเทศไทย เมื่อพระองค์ได้เสด็จกลับมาจากการศึกษาต่อในต่างประเทศ จึงทรงเตรียมการหาทางหนีทีไล่ในการต่อสู้เมื่อถูกรุกราน และหาเมืองที่เหมาะจะเป็นชัยภูมิในการต่อต้าน ทรงเห็นว่าเมืองนครปฐมเป็นเมืองที่มีชัยภูมิเหมาะสม จึงโปรดเกล้าให้สร้างพระราชวังสนามจันทร์ขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
           เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๐ (ซึ่งยังอยู่ในแผ่นดินของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕) โปรดให้ซื้อที่ดินจากประชาชนในราคาที่สูง ราษฎรจึงเต็มใจที่จะขายให้โดยง่าย และโปรดให้ หลวงพิทักษ์มานพ หรือต่อมาคือ พระยาศิลปประสิทธิ์ เป็นแม่งานสร้างขึ้นตรงบริเวณ "เนินปราสาท" ซึ่งคาดว่าเป็นพระราชวังเดิมสมัยโบราณและถูกทิ้งร้างไปนานหลายร้อยปี เมื่อสร้างเสร็จแล้วจึงพระราชทานนามว่า "พระราชวังสนามจันทร์" ตามชื่อสระน้ำโบราณหน้าโบสถ์พราหมณ์ (ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีโบสถ์พราหมณ์เหลืออยู่แล้ว)  สระน้ำโบราณคือ สระน้ำจันทร์ หรือสระบัว
           ในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ มีพระที่นั่ง พระตำหนักต่าง ๆ ที่โปรดให้สร้างขึ้น และพระราชทานนามไว้คล้องจองกัน


























  • พระราชวังสนามจันทร์


    www1.mod.go.th/heritage/nation/tour/sanamjan.htm - แคชใกล้เคียง
    พระราชวังสนามจันทร์มีประวัติเก่าแก่มาแต่โบราณกาล เพราะสถานที่ที่สร้างพระราชวังสนาม จันทร์นี้คือ สถานที่ที่สมัยโบราณเรียกว่า " เนินปราสาท" เคยเป็นที่ตั้งของ วังโบราณ ...



















  • "สนามจันทร์" พระราชวังสนามจันทร์ ... อนุสรณ์ย่าเหล


    www.annaontour.com/province/nakornpathom/sanamchan.php - แคชใกล้เคียง
    พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ห่างจากองค์พระปฐมเจดีย์ ไปทางตะวันตก ประมาณ 1 ... เป็น พิพิธภัณฑ์พระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ...



















  • พระราชวังสนามจันทร์ - VIMANMEK [ The world's largest golden ...


    www.vimanmek.com/exhibit/sanamchandra.php?lang=thai - แคชใกล้เคียง
    พระราชวังสนามจันทร์. ประวัติความเป็นมา. พระราชวังสนามจันทร์ ตั้งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ห่างจากกรุงเทพฯ ลงไปทางใต้ ๕๖ กิโลเมตร บริเวณที่เป็นพระราชวังสนามจันทร์ ...
















  •          ย่าเหล 

                 เป็นชื่อสุนัขตัวโปรดที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเป็นพิเศษ เป็นสุนัขพันทาง ขนยาวปุกปุย สีขาว สลับน้ำตาล ทรงเสด็จไปพบเมื่อคราวเสด็จไปตรวจเรือนจำ จังหวัดนครปฐม ทรงพอพระทัยในความเฉลียวฉลาดของสุนัข จึงมีรับสั่งขอจากรองอำมาตย์เอกพระพุทธเกษตรานุรักษ์ แล้วทรงนำไปเลี่ยงไว้ในราชสำนัก พระราชทานชื่อ "ย่าเหล" ซึ่งน่าจะมาจากชื่อ "JARLET" ในหนังสือเรื่อง MY FRIEND JALLET  ซึ่งพระองค์ทรงโปรดและได้นิพนธ์เป็นบทละคร ทรงถือว่าย่าเหลเป็นเพื่อน เพราะย่าเหลฉลาด แสนรู้ และจงรักภักดีเป็นอย่างยิ่ง จึงเป็นเหตุให้มีผู้อิจฉาริษยาสุนัข และถูกยิงด้วยปืนจนตาย ได้มีผู้พบศพย่าเหลอยู่ข้างกำแพงพระบรมมหาราชวังด้านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
               พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอาลัยรักในย่าเหลมากและจัดพิธีศพให้ โลงศพ (น่าจะเป็นชั้นนอก) ยังเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภันณ์วัดพระปฐมเจดีย์ และได้สร้างอนุสาวรีย์ย่าเหลไว้ที่ด้านหน้าของพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ด้วยโลหะรมดำ ตั้งบนแท่นสูง และยังทรงบทกลอนไว้อาลัยด้วย
               อนุสาวรีย์ย่าเหล จึงเป็นอนุสาวรีย์ของสุนัขและยังสร้างให้โดยพระมหากษัตริย์ มีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยหรืออาจจะในโลก
               ข้าวหมูแดงนครปฐมและเป็ดตุ๋น นับว่าเป็นอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดนี้ มีหลายร้าน อร่อย ๆ ทั้งนั้น เช่น ถนนสายจากพระราชวังสนามจันทร์ ตรงมายังองค์พระปฐมเจดีย์ น่าจะเรียกว่าถนนอาหารได้แล้ว เพราะมีร้านอาหารอร่อย ๆ หลายร้าน หลายประเภท ข้าวหมูแดง ก๋วยเตี๋ยวก็มี หรือเดินผ่านถนนสายกลางหน้าองค์พระ ที่เป็นถนนผลไม้ทั้งสาย สุดถนนพบถนนอีกเส้นที่เลียบคลอง หากเลี้ยวขวาก็จะพบร้านข้าวหมูแดงและเป็ดตุ๋นเจ้าเก่าแก่ หรือพอพ้นถนนที่เป็นตลาดผลไม้ไปแล้วเลี้ยวซ้ายเลียบริมคลองไปสัก ๕๐๐ เมตร จะถึงบริเวณท่ารถนครปฐม - บางเลน ร้านห้องเดียว ร้านเก่าแก่มากร้านหนึ่งขายข้าวหมูแดง หากไปนครปฐมเช้ามีสถานที่เที่ยว ที่กิน ที่ซื้อของสนุกนักอยู่อีกแห่งหนึ่ง ผมชอบไปในยามเช้าคือตลาดนัด ถนนเทศาซอย ๒ จากองค์พระมาตามเส้นทางที่จะกลับกรุงเทพ ฯ ซอยนี้อยู่ซ้ายมือ หากไม่เกิน ๑๐.๐๐ จะพบแต่ถนนที่สะอาดเรียบร้อย ไม่มีแววเลยว่าเมื่อ ๒ ชั่วโมงที่แล้วคือตลาดนัดมีของขายนับร้อยร้าน
               ทีนี้จะพาไปชิม  ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าไก่ ข้าวหน้าเป็ด อร่อยสุด ๆ
               สั่งข้าวหน้ารวม มาพร้อมทั้งเป็ด หมูแดง หมูกรอบ และน้ำซุป ๑ ถ้วย
               ยังไม่จุใจ สั่งข้าวหมูแดงราดน้ำมาชุ่มฉ่ำมาอีกจาน ทีนี้ได้กินข้าวหมูแดงอร่อยสมใจ
               ของหวานไม่มี ไปซื้อข้าวหลามแถวริมถนนริมคลอง กินให้สมกับคำขวัญที่ว่า นครปฐมเป็นดินแดนแห่ง





    การศึกษาที่สร้างนวัตกรรมชีวต







    1. ปรัชญา
                การเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชา ที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักใฝ่รู้ ซื่อสัตย์ ขยัน เที่ยงธรรม และมีคุณธรรมในการปฏิบัติงาน ย่อมเป็นผู้ที่สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข

      การศึกษาที่สร้างนวัตกรรมชีวิต


    พันธกิจ  

          1)  จัดและบริหารการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัย โดยเน้นคุณภาพตามมาตรฐาน กระทรวงศึกษาธิการและสากล 
          2)  ส่งเสริมการวิจัยพื้นฐาน และงานวิจัยประยุกต์โดยให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาของท้องถิ่น 
          3)  ให้บริการวิชาการเพื่อประโยชน์ต่อชุมชนและท้องถิ่นในภาคเหนือ 
          4)  ส่งเสริมการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม ศาสนา อนุรักษ์ และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 
          5)  พัฒนาองค์กรและสาขาวิชาให้เป็นองค์แห่งการเรียนรู้ สำหรับ มหาวิทยาลัยและชุมชน วิสัยทัศน์ เป็นหน่วยงานบริหารจัดการและควบคุมดูแลมาตรฐานการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มุ่งเน้นให้ผู้สำเร็จการศึกษามีจริยธรรม มีความรู้คู่คุณธรรม มีความเข้มแข็งทางวิชาการ มีความสามารถในการวิจัย เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่สร้างนวัตกรรมทางปัญญา ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
    1. ปณิธาน

                บัณฑิตวิทยาลัยได้ยึดปณิธานในการดําเนินงานของมหาวิทยาลัย ในการจัดการเรียนการสอนและการวิจัย โดยยึดมั่นในความซื่อตรง ขยัน เที่ยงธรรม มุ่รับใช้สังคมชียงใหม่และสังคมไทย ภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงอันหมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันในตัว ภายใต้เงื่อนไขคุณธรรม หลักวิชาความรู้ เพื่อนำไปสู่ความสมดุล พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลง

    2. พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ 
    3.  เป็นสถาปัตยกรรมลักษณะแบบผสมผสานระหว่างอิทธิพลของปราสาทแบบเรอเนซองส์ ของฝรั่งเศสกับแบบอังกฤษ ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสนามใหญ่ ด้านหน้าของพระตำหนักองค์นี้มี อนุสาวรีย์ "ย่าเหล" พระตำหนักชาลี ฯ มี ๒ ชั้น ทาสีไข่ไก่ หลังคามุงกระเบื้องสีแดง ชั้นบนมี ๒ ห้อง ทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีระเบียงโดยรอบทั้ง ๓ ด้าน
                 ในช่วงปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดประทับที่พระตำหนักชาลีมงคลอาสน์เป็่นประจำ ทรงประกอบพระราชกรณีกิจเช่น ให้ราชฑูตต่างประเทศเข้าเฝ้า และบางครั้งประทับทอดพระเนตรฟุตบอลระหว่างกรมเสือป่าม้าหลวงกับกรมเสือป่าพรานหลวง ณ สนามหน้าพระตำหนัก


    4. North-Chiang Mai University (NCU)
      ก่อตั้ง : พ.ศ. 2542
      ต้นไม้ประจำสถาบัน : ต้นชัยพฤกษ์
      สีประจำสถาบัน : สีชมพู-เหลือง
      จำนวนคณะ : 5 คณะ
      จำนวนนักศึกษา : ประมาณ 1,826 คน
      อัตราค่าเล่าเรียน : หน่วยกิตละ 500-1,500 บาท
      ที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ : 169 หมู่ 3 ตำบลหนองแก้ว อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โทร. 0 5381 9999
      เว็บไซต์ : www.northcm.ac.th
      ประวัติ
      มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2542 ด้วยแรงบันดาลใจของอาจารย์ ณรงค์ ชวสินธุ์ เพื่อที่จะทดแทนแผ่นดินเกิดด้วยการก่อตั้งสถานศึกษา โดยตั้งใจให้เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดหลักสูตร สาขาการจัดการการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Management) ระดับปริญญาตรีในคณะบริหารธุรกิจ
      มหาวิทยาลัยมีเป้าหมายเพื่อมุ่งเน้นการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกสู่สังคม ทั้งยังให้ความสำคัญต่อการปพื้นฐานและสร้างสำนึกให้บัณฑิตมีความพร้อมและใฝ่ใจในการริเริ่มตลอดเป็นเจ้าของกิจการของตนเอง เพื่อพัฒนาท้องถิ่น สังคมและประเทศชาติ ซึ่งบัณฑิตจะต้องเป็นผู้รู้จริง ทำจริง เก่งในด้านเทคโนโลยี ภาษาดี มีมนุษยสัมพันธ์ ร่วมงานกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีภาวะผู้นำและศีลธรรมจรรยา
      สัญลักษณ์
      มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ใช้เครื่องหมายเป็นวงกลมซ้อนกัน 2 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นอาร์มภายในมีรูปลูกดิ่ง และช่อชัยพฤกษ์อยู่ด้านล่างอาร์ม ถัดจากนั้นเป็นวงกลมชั้นที่ 2 โดยภายในวงกลมเป็นชื่อของมหาวิทยาลัย
      "ช่อชัยพฤกษ์" หมายถึง ความดีและปณิธานของผู้รับใบอนุญาตในความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ที่จะทำให้สถาบันแห่งนี้เป็นสถาบันการศึกษาที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถประสาทวิชาความรู้และปลูกฝังทัศนคติอันพึงปรารถนา พัฒนาทักษะและศักยภาพของเยาวชนไทยให้เป็นพลเมืองดี
      "ลูกดิ่ง" หมายถึง ความมั่นคง ความแน่วแน่ หนักแน่น มีความมั่นคงในวิชาชีพของตน ความมีจุดยืนและยึดมั่นในหลักการแห่งตน เป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญาและศาสตร์ทั้งปวงแห่งความเป็นสากล
      อาร์ม หมายถึงจิตวิญญาณซึ่งสามารถถ่ายทอดความรู้และเป็นแหล่งวิชาการที่ผลิตองค์ความรู้ไปสู่ภูมิภาคได้ อีกทั้งยังหมายถึงพลังแห่งความก้าวหน้าทางวิทยาการ
      ส่วนสีประจำมหาวิทยาลัยนั้นใช้ "สีชมพู-เหลือง" สีชมพู สื่อความหมายถึงความสดใส ความสดชื่น และเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของสมเด็จพระปิยมหาราชอีกด้วย ส่วนสีเหลือง หมายถึงความสว่างนำทางสู่เป้าหมายที่สูงสุดของชีวิต และเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
      มีอะไรเรียนบ้าง
      1. คณะวิศวกรรมศาสตร์
      หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
      - วิศวกรรมไฟฟ้า
      - วิศวกรรมคอมพิวเตอร์
      - วิศวกรรมอุตสาหการ
      - วิศวกรรมเครื่องกล
      - วิศวกรรมซอฟต์แวร์
      หลักสูตรเทคโนโลยีศาสตรบัณฑิต
      - เทคโนโลยียานยนต์
      - เทคโนโลยีไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
      - เทคโนโลยีการจัดการอุตสาหกรรม
      - เทคโนโลยีการจัดการพลังงาน
      2. คณะบริหารธุรกิจ
      หลักสูตรบริหารธุรกิจ
      - การบัญชี
      หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต
      - คอมพิวเตอร์ธุรกิจ
      - การจัดการ
      - การจัดการการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
      - การตลาด
      - การจัดการการท่องเที่ยวและการบริการ
      3. คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
      หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต
      - รัฐประศาสนศาสตร์
      4. คณะนิติศาสตร์
      หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต
      5. บัณฑิตวิทยาลัย







    5.  







    พระปฐมเจดีย์
    เป็นพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย  การที่ได้ชื่อว่าพระปฐมเจดีย์นั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ทรงสัณนิษฐานว่า น่าจะเป็นพระเจดีย์เก่ากว่าพระเจดีย์อื่น ๆ ในประเทศสยาม  สันนิษฐานว่าสร้างสมัยทวาราวดี ตั้งอยู่ที่เมืองนครไชยศรีในสมัยก่อน  ปัจจุบันอยู่ในอำเภอเมืองนครปฐม







    จากเอกสารเก่าที่บันทึกเรื่องนี้ไว้มีประวัติว่า พระปฐมเจดีย์ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๕๐๐  ก็มี พ.ศ. ๑๐๐๐  ก็มี พ.ศ. ๑๑๘๕ ก็มี พ.ศ. ๑๒๖๔  ก็มี พ.ศ. ๑๖๓๐ ก็มี ความสูง ๔๐ วา ๕ ศอก  มีพระแท่นบรรทม ที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาบรรทม บรรจุพระทันตธาตุ  คือ พระเขี้ยวแก้ว  องค์หนึ่ง  บรรจุพระบรมธาตุ  หนึ่งทะนาน มีปรากฎก่อนพบพระพุทธบาท พระพุทธฉาย กว่าพันปี







    เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ในขณะที่ทรงผนวชอยู่และได้ไปนมัสการพระปฐมเจดีย์ ได้ทรงแสดงสภาพพระปฐมเจดีย์ไว้ว่า  เป็นเพระเจดีย์ใหญ่ยอดปรางค์  ตอนหนึ่ง ฐานล่างกลมเป็นรูประฆัง ตอนหนึ่ง น่าจะทำมาหลายคราว คนทั่วไปเรียกว่า พระปทม  เนื่องด้วย เชื่อว่าพระพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาบรรทมที่นั่น   จากฝีมือทำอิฐและก่อ แสดงว่าเป็นของทำมาเก่าแก่หลายครั้ง ที่เนินใหญ่เป็นกองอิฐหักลงมา เมื่อขุดลงไปสักสองสามศอกพบอิฐยาวศอกหนึ่ง หน้าใหญ่สิบสองนิ้ว  หน้าน้อยหกนิ้ว ก่อเป็นพื้น น่าจะเป็นองค์พระเจดีย์เดิมหักพังลงมา  แล้วมีการก่อพระเจดีย์ออกบนเนินเรียงรายอยู่สี่วิหาร 

    มีวิหารพระนาคปรก วิหารพระไสยาสน์  วิหารไว้พระพุทธรูปต่าง ๆ  และวิหารพระป่าเลไลย์  วิหารหลวงพระอุโบสถอยู่บนพื้นแผ่นดิน ตั้งแต่หลังเกาะสูงประมาณมีถึงห้าวา  หลังเกาะขึ้นไปเป็นองค์พระเจดีย์กลม ๑๔  วา ๒ ศอก ปรางค์สูง  ๒๐ วา ยอดนพศูลสูง  ๘ ศอก รวมความสูงตั้งแต่หลังเกาะถึงยอดนพศูลสูง ๘  ศอก  รวมความสูง ตั้งแต่หลักเกาะถึงยอดนพศูล  ๔๐ วา ๒  ศอก







    ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า ฯ ได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์เป็นแม่กองทำการปฏิสังขรณ์  และเมื่อสมเด็จเจ้าพระยา ฯ ถึงแก่พิราลัย ก็ได้โปรดเกล้า ฯ ให้เจ้าพระยานิพากรวงศ์มหาโกษาธิบดี เป็นแม่กองดำเนินการต่อไป  ได้จ้างพวกมอญทำอิฐ รวมทั้งทาสลูกหนี้ด้วย โดยคิดหักค่าตัวให้   จ้างจีนมาเผาปูน  และ เป็นช่างก่อ  เอาราษฎรจากเมืองนครไชยศรี  เมืองสมุทรสาคร เมืองราชบุรีและเมืองพนัสนิคม  โดยแบ่งคนออกเป็นสี่ผลัด เดือนละสองร้อยคน  เมื่อก่อพระเจดีย์ได้สูง  ๑๗ วา  ๒ ศอก    

      ต่อมาเกิดฝนตกหนักอิฐที่ก่อทรุดตัวลง  เพราะฐานทักษิณไม่มี จึงต้องรื้อออกทำใหม่ โปรดเกล้า ฯ ให้ถมพื้นที่ลุ่มดอนให้เสมอกัน  ก่อฐานใหญ่รอง  ๕ เส้น  ๑๖  วา  ๓  ศอก องค์พระเจดีย์ถึงยอดนพศูล ตลอดยอดมงกุฏ สูง  ๓ เส้น  ๑  คืบ  ๖  นิ้ว 












    1. กิจกรรมเสริมหลักสูตร


      ด้านบริการวิชาการ


      • สัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง "การพัฒนาทุนมนุษย์"
      โดย..ดร.จิระ หงส์รดารมภ์
       ณ ห้อง สายชล โรงแรมริเวอร์


      เชิญคลิ๊กดูค่ะ




      • สัมมนาเรื่อง                                              "การพัฒนาวิสัยทัศน์ของผู้นำเพื่อการแข่งขันที่ยั่งยืน"     โดย..ศ.ดร.เรวัตร์ ชาตรีวิศิษฐ์                            ณ วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน














      ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม




                         ทัศนศึกษาดูงาน / ตอบแทนสังคม


      มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่
      North-Chiang Mai University
      N northcm2.gif
      ประเภทเอกชน
      ที่ตั้งมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่
      ตำบลหนองแก๋ว อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่
      เว็บไซต์http://www.northcm.ac.th/

      <><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><><>เกี่ยวกับฉัน</></> </></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></></>

      อุตสาหกรรมการศึกษา
      อาชีพประสานงานการศึกษา
      ตำแหน่งที่ตั้งกรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ, ไทย
      ตอบสนองเพือการศึกษา









    2. :: ประวัติ มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่


      www.northcm.ac.th/web/th/ncu/name.php - แคชใกล้เคียง
      มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2542 ด้วยแรงบันดาลใจของ อาจารย์ณรงค์ ชวสินธุ์ ผู้ก่อตั้งภายใต้ ปรัชญาที่ว่า "การให้ เป็นความสุขที่แท้จริง ...

















    3. :: ประวัติท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ - ภาษาไทย


      www.northcm.ac.th/web/th/administer/president.php - แคชใกล้เคียง
      อาจารย์ณรงค์ ชวสินธุ์ ผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เป็นชาวเชียงใหม่โดยกำเนิด สำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมจาก โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ.


















    4. :: ประวัติท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ - ภาษาไทย


      www.northcm.ac.th/web/th/administer/president_index.php - แคชใกล้เคียง
      ความได้เปรียบทางวัฒนธรรมทางภาคเหนือ ด้วยรอยยิ้ม มิตรภาพ และความช่วยเหลือ ทั้งใน ส่วนที่เป็นโบราณสถาน หรือประเพณีที่สืบทอดต่อกันมา ...

















    5. :: ประวัติท่านอธิการบดี มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ - ภาษาไทย


      www.northcm.ac.th/web/th/administer/president_work.php - แคช
      กรรมการบริหารบริษัทสินธุ แอนด์ คิว.พี.เอส. จำกัด ประกอบธุรกิจผลิต จำหน่ายพร้อมบริการ ตอกเสาเข็ม คอนกรีตอัดแรง และผลิตภัณฑ ์คอนกรีตอื่นๆ. มีนาคม 2531 – ปัจจุบัน ...


















    6. มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ - วิกิพีเดีย


      th.wikipedia.org/wiki/มหาวิยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ - แคชใกล้เคียง
      ข้ามไปยัง ประวัติ‎: ประวัติ. Wiki letter w.svg ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยวิกิพีเดียไทยได้โดยการ เพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้. [แก้.

















    7. มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ (มนช.)


      campus.sanook.com › education - แคช
      3 ส.ค. 2010 – ประวัติ. มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2542 ด้วยแรงบันดาลใจของอาจารย์ ณรงค์ ชวสินธุ์ เพื่อที่จะทดแทนแผ่นดินเกิดด้วยการก่อตั้งสถานศึกษา ...

















    8. สภามหาวิทยาลัย - มหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ [North - Chiang Mai ...


      ► 4:46► 4:46
      www.northcm.ac.th/web/th/2011/aboutus.php22 ม.ค. 2012 - 5 นาทีมหาวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ ก่อตั้งเป็นวิทยาลัยนอร์ท-เชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2542 โดย อาจารย์ณรงค์ ชวสินธุ์ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสครบรอบ




















    9. ประวัติเชียงใหม่ : ข้อมูลประวัติศาสตร์เชียงใหม่


      www.oceansmile.com/N/Chianmai/Chiangmai1.htm - แคชใกล้เคียง
      ประวัติศาสตร์ดินแดนล้านนา : เมืองเชียงใหม่ • ดินแดนล้านนา หมายถึง อาณาบริเวณที่ ประกอบด้วยเมืองกลุ่มหนึ่งที่มีความสัมพันธ์กันทางเครือญาติหรือทางวัฒนธรรม ในอดีต ...















    10.  














    11.  














    12. ประวัติเมืองเชียงใหม่ เมืองเชียงใหม่


      www.hotsia.com › มรดกไทย - แคช
      ภายหลังที่พญาเม็งรายสถาปนาเชียงใหม่ เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรล้านนาตอนล่างแล้ว ได้ทรงสร้างอาณาจักรให้เป็นปึกแผ่นมั่นคงยิ่งขึ้น ทั้งด้านการเมือง การปกครอง การค้า และ ...

















    13. ประวัติ อาณาเขต ของ จังหวัดเชียงใหม่ ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว


      ประวัติ. นพบุรี ศรีนครพิงค์ หรือ เวียงพิงค์ ของพ่อขุนเม็งรายมหาราชในอดีต หรือเชียงใหม่ใน วันนี้ คือ เมืองที่เปรียบประดุจดังกุหลาบงามของแผ่นดินลานนาไทย ...


















    14. ประวัติเชียงใหม่ - หน้าแรก - สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตเชียงใหม่


      ipegames36.ipecm.ac.th/index.php?option=com... - แคช
      ประวัติเมืองเชียงใหม่. ดินแดนล้านนา. หมายถึง อาณาบริเวณที่ประกอบด้วยเมืองกลุ่มหนึ่งที่มี ความสัมพันธ์กันทางเครือญาติ หรือทางวัฒนธรรม ในอดีต รัฐโบราณไม่มีอาณาเขตชัดเจน ...














    15. ส้มโอนครปฐม
                ส้มโอนครปฐม ซึ่งปลูกในอำเภอนครชัยศรี อำเภอสามพราน และอำเภอพุทธมณฑล ของจังหวัดนครปฐม จะเรียกกันว่าส้มโอนครชัยศรี
      เป็นผลไม้ที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาออกสิทธิบัตร "ผลไม้บ่งชี้ทางภูมิศาสตร์" การเลือกซื้อส้มโอนครชัยศรีส้มโอนครชัยศรีที่นิยมปลูกและนิยมบริโภค
      มีอยู่ 5 สายพันธุ์ ได้แก่
        1. ส้มโอพันธุ์ทองดี รสชาติดีหวานนำอมเปรี้ยวเล็กน้อย ไม่มีรสขม และรสซ่า เนื้อสีขาวอมชมพูฉ่ำ รูปทรงกลมแป้น เปลือกผิวบาง มีต่อมน้ำมันเล็ก ชาวจีนนิยม เพราะสีเนื้อคล้ายสีทับทิม ไหว้เจ้าก็เป็นมงคล บริโภคก็อร่อยติดใจ 2. ส้มโอพันธุ์ขาวน้ำผึ้ง รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อสีขาวอมเหลืองเล็กน้อยคล้ายสีน้ำผึ้ง รูปทรงกลมนูน เปลือกผิวบาง มีต่อมน้ำมันใหญ่ เนื้อแน่นน้ำหนักดี ไม่มีรสขมและรสซ่า แก่จัดเนื้อแห้งถูกคอคนไทย ต่างชาติก็นิยม 3. ส้มโอพันธุ์ขาวพวง รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ถ้าแก่จัดรสหวานมากกว่าเปรี้ยว ลักษณะลูกหัวจุกยาว (คล้ายลูกน้ำเต้า) เนื้อสีขาวอมเหลืองอ่อนๆ ส่งออกดีชาวจีนชอบ เพราะเหมือนผลน้ำเต้า ไหว้เจ้าเป็นมงคลแก่ครอบครัว บริโภคก็ได้วิตามิน 4. ส้มโอพันธุ์ขาวแป้น รสชาติหวานอมเปรี้ยว ลักษณะลูกหัวจุกสั้น ส่วนผลคล้ายพันธุ์ทองดี เนื้อสีขาว ความนิยมในตลาดลดลงมาก 5. ส้มโอพันธุ์ขาวหอม รสเปรี้ยวนำ ลักษณะผลใหญ่ เปลือกบาง น้ำหนักดี
                ส้มโอพื้นบ้านอย่างขาวพวงนิยมนำไปทำเป็นยำส้มโอ ส้มโอทองดีเป็นพันธุ์เดียวที่มีเนื้อสีชมพู ส้มโอขาวน้ำผึ้ง กับขาวหอม ทรงสูง
      ดูยากกว่าชนิดอื่นๆ ถ้าปอกแล้วจะพบว่า ส้มโอขาวหอมเนื้อกรอบแข็ง รสหวาน แต่ขาวน้ำผึ้งเนื้อนิ่มและหวานกว่า ส้มโอที่แก่จัดเกินไปเนื้อจะกลายเป็น
      เม็ดกรอบๆ แข็งๆ ไม่มีน้ำ เรียกว่า เป็นเนื้อข้าวสาร
                ส้มโอนครชัยศรี ที่ปลูกในอำเภอสามพราน อำเภอนครชัยศรี มีรสหวานอร่อย เป็นที่ต้องการของตลาดทั่วไป นับเป็นพืชเศรษฐกิจ
      ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และมีขายอยู่ทั่วไปทั้งจังหวัด  แต่ว่าสวนในนครปฐมเองก็เหลือน้อยเต็มที เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่น
      ที่ให้ผลเร็ว หรือใช้ที่ดินจัดสรรเป็นที่อยู่อาศัยมากขึ้น ทำให้พื้นที่ปลูกส้มโอลดลงจำนวนมาก ดังนั้นจึงมีผู้นำส้มโอจากถิ่นอื่นๆ มาขายด้วย ซึ่งเลือกยาก
      เพราะ ส้มโอมีลักษณะที่คล้ายกัน จะได้ส้มโอนครชัยศรีแท้ๆ จึงต้องขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ของผู้ค้าด้วย โดยทั่วไปการเลือกซื้อส้มโอ ควรเลือกที่มี
      ผิวเหลืองจัด ผิวเต่ง ตาน้ำมันถ่างใหญ่ ก้นนิ่มแม้จะอยู่กับต้น แต่ถ้าตัดหลายวันก้นก็นิ่มได้ แต่ผิวจะไม่เต่ง
                เนื่องจากปัญหาดังกล่าว ฝ่ายผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนจึงเห็นควรให้มีการจัดงานวันส้มโอขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นส่งเสริมให้เกษตรกร
      หันมาปลูกส้มโอ และมีการพัฒนาพันธุ์ให้ได้มาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงส้มโอนครชัยศรี
      ให้เป็นที่รู้จักและบริโภคของประชาชนทั่วไป ตลอดจนเป็นสินค้าส่งออกมากยิ่งขึ้น

















      ผลไม้ประจำจังหวัด เชียงใหม่

      ผลไม้

      ลิ้นจี่ (Lichee)




      ลิ้นจี่ (Lichee)







       
      ลิ้นจี่ เป็นไม้ผลที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Litchi chinensis, Somn สามารถขึ้นได้งอกงามในดินร่วนเหนียวหรือดินร่วน ปนทราย มีความเป็นกรดเป็นด่างของดิน (PH) ประมาณ ๖ - ๗ มีฝนตกสม่ำเสมอตลอดปีประมาณ ๔๐ - ๖๐ นิ้วต่อปี มีอากาศหนาว ปานกลางจะช่วยให้ลิ้นจี่ออกดอกและติดผลมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือของประเทศไทยมีดินที่อุดมสมบูรณ์อากาศหนาวพอสมควร จึงเป็นทำเลที่เหมาะแก่การปลูกลิ้นจี่
      พันธุ์ลิ้นจี่ที่นิยมมี ๒ พันธุ์ คือ
      ๑. พันธุ์เบา เริ่มตั้งแต่ดอกบานจนถึงผลสุกใช้เวลาประมาณ ๔๕ - ๕๐ วัน ได้แก่ พันธุ์แห้ว พันธุ์กระโหลกใบยาว
      ๒. พันธุ์หนัก เริ่มตั้งแต่ดอกบานจนถึงผลสุกใช้เวลาประมาณ ๗๐ - ๗๕ วัน ได้แก่ พันธุ์กระโถนท้องพระโรง พันธุ์กระโนใบไหม้
      สำหรับภาคกลางนิยมปลูกพันธุ์ค่อมและพันธุ์ลำเจียก ส่วนภาคเหนือนิยมปลูกพันธุ์โอวเฮียะ พันธุ์ฮงฮวย และพันธุ์จักรพรรดิ์
      การขยายพันธุ์ส่วนมากใช้วิธีตอนกิ่งทั้งสิ้น ซึ่งได้ผลถึง ๙๐ -๙๕ % การเตรียมดินหากพื้นที่ต่ำและน้ำขังควรปลูกแบบ ยกร่องถ้าเป็นที่ราบดอนให้ปลูกแบบสวน ในเว้นระหว่างแถว ๑๒ x ๑๒ เมตร ขุดหลุมกว้างลึกยาว ๑ เมตร ผสมปุ๋ยคอกหรือ ปุ๋ยหมักกับ ดินส่วนบนแล้วกลบลงจนเต็มหลุม ใช้ไม้ปักผูกเชือกยึดกับลำต้นป้องกันไม่ให้ต้นโยกไปมา และควรทำร่มบังแดด ในระยะหนึ่งก่อน ระยะแรกต้องให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ในหน้าฝนระวังอย่าให้น้ำท่วม ระยะลิ้นจี่ยังเล็ก (อายุ ๓ - ๔ ปี) ควรใช้ปุ๋ยสูตร ๑๕-๑๕-๑๕ โดยโรยปุ๋ยรอบๆ ทรงพุ่มใบแล้วพรวนกลบต้นละ ๒๐๐ - ๓๐๐ กรัมต่อปี ส่วนที่ให้ผลแล้วควรใส่ ปุ๋ยพวกฟอสเฟตเพิ่มให้อีกต้นละ ประมาณ ๒๐๐ - ๓๐๐ กรัม
      ควรปลูกพืชคลุมดินตระกูลถั่วควบคู่กันไปด้วย เป็นการเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดินให้อุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ควรตัดแต่งกิ่งที่เบียดเสียดกัน อยู่และกิ่งที่ไม่สมบูรณ์ตอนกลางพุ่มที่ไม่ได้รับแสงแดดออก และควรปลูกต้นไม้รอบบริเวณสวน เช่น ต้นไผ่ ต้นสน ช่วยบังลมให้























      ลิ้นจี่เริ่มออกผลเมื่ออายุ ๕ - ๖ ปี ผลมี ๒ รุ่น รุ่นแรกออกก่อน ผลัดใบ รุ่นหลังผลัดใบแล้วออกดอก การเก็บลิ้นจี่จะเลือกเก็บ เฉพาะช่อที่แก่สุกเต็มที่ มีสีแดงจัด ซึ่งลิ้นจี่จะสุกไม่พร้อมกัน เมื่อเก็บผลมาแล้วก็ตัดแต่งช่อให้สะอาดเก็บไว้ในที่มีลมโกรก หรือห้องที่มีอากาศโปร่ง
      โรคและศัตรูของลิ้นจี่มีน้อย ศัตรูสำคัญคือ ไรแดง หรือแมงมุมแดงที่คอยดูดกินน้ำเลี้ยงตามใบ จะเกิดขึ้นในระยะ ที่ลิ้นจี่กำลังแตกใบอ่อน ป้องกันโดยใช้กำมะันผง ๑๐๐ กรัม ผสมน้ำ ๑ ปีบ ๑๒๐ ลิตร ฉีดพ่นตามที่ลิ้นจี่กำลังแตกใบใหม่ทุก ๑๐ -๑๕ วัน
      ลิ้นจี่ปลูกในประเทศไทยมานานแล้ว สันนิษฐานว่าสวนลิ้นจี่เกิดขึ้นตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยชาวจีนเป็นผู้นำเอาเข้ามา ในรูปกิ่งตอนหรือผลแล้วนำมาเพาะอีกทีหนึ่ง เพราะสมัยนั้นชาวจีนเข้ามาเมืองไทยมาก มีการซื้อขายสินค้าแลกเปลี่ยนกัน เชื่อว่าจะต้อง มีลิ้นจี่รวมอยู่ด้วยและคงจะมีการปรับปรุงบำรุงพันธุ์กันต่อๆ มา
      ในเขตจังหวัดเชียงใหม่ เช่นที่อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และจังหวัดเชียงรายมีการปลูกลิ้นจี่มาก สันนิษฐานว่าพันธุ์ลิ้นจี่ ที่เข้ามาระยะหลังคงจากไต้หวัน เพราะมีหมู่บ้านที่เป็นเขตที่อยู่ของชาวจีนฮ่ออดีตทหารจีนก๊กมินตั๋งมาอาศัยอยู่ จึงได้รับความช่วย เหลือทางด้านพืชเมืองหนาว เช่น ลิ้นจี่ ท้อ และสาลี่ จากทางรัฐบาลไต้หวัน ประกอบกับโครงการหลวงมีนโยบายจะไม่ให้ชาว เขาย้ายถิ่นจึงสนับสนุนให้ปลูกพืชเมืองหนาวเหล่านี้ ทำให้มีปริมาณของลิ้นจี่ที่มีคุณภาพดีเพิ่มขึ้น และลิ้นจี่ทางภาคเหนือกับลิ้นจี่ทาง ภาคกลางสุกในเวลาแตกต่างกัน จึงนับว่าเป็นผลดีอย่างยิ่งแก่ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภค
      ลิ้นจี่นับเป็นพืชเศรษฐกิจอย่างหนึ่งของเชียงใหม่ โดยเฉพาะอำเภอฝางและแม่อายจะจัดให้มีการส่งเสริมการขายลิ้นจี่ โดยจัด "งานวันลิ้นจี่" ขึ้นทุกๆ ปี เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัวอีกด้วย ราคาลิ้นจี่ตกกิโลกรัมละ ๒๕ - ๓๐ บาท ในระยะที่ มีผลมากส่วนระยะที่มีผลน้อยก็อาจจะได้ราคาดีกว่านี้ (ข้อมูลหนังสือ การปลูกผลไม้ เล่ม ๑ ของ อุดม โกสัยสุก สำนักพิมพ์อักษราพิพัฒน์จำกัด มปท)














































      3 ความคิดเห็น:

      1. ขอแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตทุกคนครับ
        อรุณ

        ตอบลบ
      2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

        ตอบลบ
      3. ยินดีน่ะครับ มีความมุมาน่ะมากๆเลยน่ะครับ

        ตอบลบ